วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

การฝึกวอลเลย์บอลเบี้ยงต้น


การสร้างนักกีฬาวอลเลย์บอลที่มีความสามารถขึ้นมาสักคนหนึ่งเป็นเรื่องที่ยากและต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรจากระยะเริ่มหัดเล่นจนกระทั่งพัฒนาฝีมือ ซึ่งผู้ที่มีส่วนสำคัญก็คือคุณครูผู้ฝึกสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณครูผู้เริ่มฝึกสอนเด็กๆ หัดเล่นวอลเลย์บอล โดยส่วนตัวผมมองว่าคุณครูผู้ฝึกสอนในระดับนี้จะต้องเป็นผู้มีความอดทนเสียสละอย่างมากในการดูแลฝึกหัดเด็กๆ ให้เรียนรู้การเล่นวอลเลย์บอลได้อย่างถูกต้องซึ่งถือว่าเป็นการวางรากฐานให้กับเด็กๆ เหล่านั้นได้มีโอกาสได้พัฒนาฝีมือของตนเองต่อไปในอนาคต ผมเองไม่เคยมีประสบการณ์ในการฝึกเด็กเริ่มหัดเล่นแต่พยายามศึกษารวบรวมข้อมูลวิธีการต่างๆ มานำเสนอโดยหวังว่าอาจจะเป็นประโยชน์แก่คุณครูในการนำไปฝึกฝนเด็กๆ บ้างไม่มากก็น้อย
Mr.Jetchev ซึ่งเป็นวิทยากรฝึกอบรมผู้ฝึกสอนนานาชาติของสหพันธ์วอลเลย์บอลได้กล่าวไว้ว่าในการนำเด็กทั่วไปมาฝึกหัดให้เล่นวอลเลย์บอล สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือจะทำอย่างไรให้เด็กๆ เหล่านั้นไม่เบื่อหรือเลิกกลางคันเสียก่อน ซึ่งหากผู้ฝึกสอนสามารถหาเด็กที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามต้องการ แต่เมื่อเริ่มฝึกไประยะหนึ่งเด็กเหล่านั้นกลับเบื่อไม่สนใจฝึกต่อก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวผู้ฝึกสอนต้องตั้งวัตถุประสงค์ในการฝึกไว้ข้อหนึ่งคือ ทำให้เด็กๆ เหล่านั้นมีความสุขสนุกสนานกับการเล่นวอลเลย์บอล หากเด็กมีความสนุกในการฝึกจะทำให้ความสนใจมากขึ้นและไม่เกิดความเบื่อหน่ายจนไม่อยากเล่นเสียก่อน

การเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มการฝึก
ก่อนเริ่มฝึกผู้ฝึกสอนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกดังนี้
  1. ศึกษาคุณลักษณะด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับนักกีฬาเช่นสภาพแวดล้อม สภาวะครอบครัว การเรียน หรืออื่นๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในการดูแลฝึกซ้อม
  2. ตรวจสุขภาพร่างกายเด็กๆ ที่จะมาฝึกเพื่อทราบข้อมูลว่าเด็กเหล่านั้นมีโรคประจำตัวหรือไม่ สามารถรับการฝึกได้หรือไม่
  3. ประเมินสมรรถภาพร่างกายของแต่ละคน
  4. ศึกษาทัศนคติ ลักษณะนิสัยเพื่อแก้ไขข้อเสียและรักษาสิ่งดีไว้
  5. หลักการเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับระดับที่จะต้องฝึก
เมื่อผู้ฝึกสอนมีข้อมูลดังกล่าวแล้วสิ่งที่จะต้องเตรียมเพื่อการฝึกคือ
  • โปรแกรมการฝึก
  • อุปกรณ์การฝึก
  • จัดกลุ่มการฝึกโดยขึ้นอยู่กับระดับทักษะของแต่ละคน
  • จัดผู้ช่วยให้เหมาะสมในการฝึกแต่ละกลุ่ม
การสอนรูปแบบพื้นฐานในการเล่นวอลเลย์บอล
การฝึกรูปแบบพื้นฐานการเล่นวอลเลย์บอลแบ่งขั้นตอนการฝึกได้ดังนี้
  • ขั้นแรกของการฝึกพื้นฐานการเล่นผู้ฝึกสอนควรสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอลให้แก่ผู้ฝึก โดยสอนวิธีการควบคุมบอลและการเคลื่อนที่ควบคุมบอลลักษณะต่างๆ และการเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย
  • แนะนำทักษะการส่งลูก การนำไปใช้ในสถานการณ์การเล่น โดยเริ่มจากท่าทางที่ถูกต้องในการส่งลูกด้วยมือล่าง การส่งลูกมือล่าง การส่งลูกมือบน การส่งลูกมือเดียวและการเสริฟลูกด้วยมือล่าง
  • แนะนำสอนเทคนิค การเซต การตบ และการเสริฟขั้นสูงขึ้น เกมการเล่นเบื้องต้นที่ใช้การตบบอล
  • แนะนำสอนเทคนิคการรับลูกตบ การรับลูกเสริฟ และการสกัดกั้น
ในแต่ละขั้นตอนที่สอนแต่ละเทคนิคผู้ฝึกสอนควรสร้างสถานการณ์การแข่งขันโดยใช้เทคนิคที่ฝึกนั้นเพื่อสร้างความสนุกสนานและกระตุ้นความสนใจให้กับผู้ฝึกไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย
ตัวอย่างตารางโปรแกรมการฝึกซ้อมสำหรับผู้เริ่มเล่นวอลเลย์บอล
การฝึกซ้อมแต่ละสัปดาห์
สัปดาห์ 

1   สร้างความคุ้นเคยกับลูกบอล โดยผู้เล่น 1 คนต่อลูกบอล 1 ลูก
2
   สร้างความคุ้นเคยกับลูกบอล โดยผู้เล่น 2 คนต่อลูกบอล 1 ลูก
3
   ควบคุมบอลด้วยมือล่างมือเดียว 2 มือ ผู้เล่น 1 คน ต่อลูกบอล 1 ลูก
4
   พื้นฐานท่าทางการส่งลูกมือล่างและท่าทางของผู้เล่นแดนหลัง การส่งลูกมือล่างทิศทางต่างๆ
5
   การเสริฟด้วยมือล่างและการรับลูกเสริฟ
6
   เกมการเล่นที่ใช้การส่งลูกด้วยการโยนลูกบอล/ด้วยมือล่าง โดยใช้การเสริฟมือล่าง
7
   เกมมินิวอลเลย์บอล (2x2 3x3 4x4) โดยใช้รูปแบบทักษะที่ได้ฝึกผ่านมาแล้ว
8
   การโยนบอล ควบคุมลูกบอล โดยใช้มือบนเพื่อเริ่มฝึกการส่งลูกมือบน
9
   การเคลื่อนที่ส่งลูกมือบน
10 เกมการส่งลูกด้วยมือบน
11 การเซตจากแดนหลังสู่หน้าตาข่าย
12 การเซตบริเวณหน้าตาข่าย (ฝึกตัวเซต)
13 เกมการส่งบอลและเซต โดยผู้เล่น 2 หรือ 3 คน
14 การฝึกตบ (การเหวี่ยงแขน การก้าวเท้า และการกระโดด)
15 การฝึกตบ (กระโดดตบโดยตาข่ายไม่ต้องสูง) จำลองเกม การส่งบอล-เซต-ตบ
16 การฝึกตบ (ตบบอลที่เซตสูง / เปลี่ยนทิศทางการตบ)
17 ฝึกการรับลูกตบ เคลื่อนที่รับลูกตบทิศทางต่างๆ
18 ฝึกคาดคะเนทิศทางการรับลูกตบ
19 การรับลูกตบโดยผู้เล่น 2 หรือ 3 คน ฝึกความเข้าใจรูปแบบการรับลูกตบ
20 รวมการฝึกระหว่างทักษะการรับ การเซต และการตบ
21-22 เกม 4 
4 (ใช้สนาม 6 
4.5 เมตร) ใช้การเสริฟด้วยมือล่าง การรับเสริฟ การเซตและการตบ


ฝึกของข้นเริ่มต้นผู้ฝึกสอนควรกำหนดไว้เป็นแผน โดยสามารถใช้ฝึกได้ทั้งสำหรับเด็กเล็กและเด็กโต เพียงแต่ให้พิจารณาจำนวนที่จะปฏิบัติ เวลาในการฝึก ความเข้มข้นในการฝึก และจำนวนวันที่ฝึกต่อสัปดาห์

มีสิ่งที่ผู้ฝึกสอนควรพิจารณาในการฝึกเด็กๆ ให้เล่นวอลเลย์บอลประการหนึ่งคือ โดยธรรมชาติของเด็กเมื่อเราขว้างลูกบอลใส่เด็กจะหนีหรือหลบลูกบอล ดังนั้นการสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอลจะทำให้เด็กลดความกลัวบอล สร้างความคุ้นเคยโดยให้เด็กได้จับได้โยนหรือกลิ้งลูกบอล โดยผู้ฝึกสอนสามารถผสมผสานเรื่องการเคลื่อนที่สำหรับการเล่นวอลเลย์บอลเข้าไปด้วย วิธีนี้ถือว่าเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอลได้ดีวิธีหนึ่ง

นอกจากนั้นผู้ที่เพิ่งเริ่มหัดวอลเลย์บอลมักอยากจะเล่นเหมือนผู้ที่เล่นเก่งแล้วเร็วๆ มักชอบข้ามขั้นตอนของการฝึกอยากจะเล่นเกมแข่งขันเร็วๆ ผู้ฝึกสอนที่เก่งมักจะใช้สถานการณ์การแข่งขันมาประกอบการฝึก โดยพื้นฐานของการเล่นวอลเลย์บอลต้องการอย่างน้อย 2 ส่วนคือ

  1. การเสริฟบอลไปยังฝั่งคู่ต่อสู้โดยไม่ผิดพลาด
  2. การเล่นลูกเสริฟกลับไปยังฝั่งคู่ต่อสู้

โดยหากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งจะทำให้การเล่นวอลเลย์บอลขาดความสนุกสนาน และในการเล่นวอลเลย์บอลเราไม่สามารถใช้การจับแล้วโยนข้ามตาข่ายไปมาได้ ดังนั้นในการฝึกขั้นแรกเมื่อเด็กเคยชินกับลูกบอลแล้ว การส่งลูกมือล่างเป็นเทคนิคเริ่มต้นซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยให้ผู้ฝึกสอนสามารถใช้สถานการณ์การแข่งขันในกระบวนการฝึกได้ เช่น การเล่นเกม 2x2 3x3 4x4 เพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย

ผู้ฝึกสอนต้องคำนึงว่าความสามารถของเด็กอายุ 11-12 ปี จะไม่เท่ากับผู้เล่นที่โตแล้ว ดังนั้นจึงควรกำหนดกติกาพิเศษสำหรับเด็กในการสอนและเกมสำหรับเด็ก

การพัฒนาสมรรถภาพร่างกายของนักกีฬาก็เป็นเป้าหมายหนึ่งในการฝึกซ้อม แต่ในเด็กเพิ่งเริ่มหัดใหม่มักไม่ค่อยชอบ หากมีระยะเวลาการฝึกซ้อมยาว ผู้ฝึกสอนอาจจะพัฒนาด้านสมรรถภาพร่างกายสัปดาห์ละ 1 หรือ 2 ครั้ง ธรรมชาติของเด็กมักอยากเล่นวอลเลย์บอล ดังนั้นการฝึกสมรรถภาพผู้ฝึกสอนจำเป็นต้องสร้างแรงจูงใจที่ดีจึงทำให้ผลการฝึกซ้อมด้านสมรรถภาพร่างกายเป็นไปในทางบวก

ข้อแนะนำสำหรับการฝึกซ้อมวอลเลย์บอลให้กับเด็กเริ่มเล่น

  • เตรียมระบบการฝึกซ้อม วิธีการพัฒนาทักษะ สมรรถภาร่างกายพื้นฐานและสภาวะจิตใจตลอดการฝึกซ้อมประจำวัน
  • ใช้กิจกรรมการฝึกซ้อมกับลูกบอลที่หลากหลายเป็นประจำ
  • จำนวนครั้งในการฝึกไม่ควรเกิน 10 ครั้งและมีเวลาพักพอสมควร ควรให้คำแนะนำเสมอหลังการฝึกซ้อม
  • ไม่ควรฝึก Weight training ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
  • อธิบายวิธีการเล่นให้เข้าใจชัดเจน
  • เตรียมสภาพแวดล้อม กระตุ้นความสนใจในการฝึก สำหรับการฝึกเด็กการให้คำชม ปลุกปลอบใจ เป็นสิ่งสำคัญมากในการสร้างแรงจูงใจในการฝึกซ้อม
  • สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักกีฬา ไม่ควรสร้างแรงกดดันในการฝึกซ้อมสำหรับผู้เริ่มหัดใหม่อย่างเด็ดขาด
  • ให้ผู้เข้ารับการฝึกทุกคนมีโอกาสฝึกเท่าเทียมกัน ไม่มีใครสามารถพัฒนาได้จากการดูเฉยๆ

ในตอนต่อไปผมจะนำวิธีการฝึกซ้อมสำหรับเด็กหัดเล่นใหม่มานำเสนอเป็นตอนต่อไปครับ

การฝึกวอลเลย์บอลขั้นเริ่มต้น 1 (การสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอล)

การฝึกวอลเลย์บอลขั้นเริ่มต้น 1 (การสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอล)


ในการฝึกวอลเลย์บอลสำหรับเด็กหรือผู้เริ่มหัดเล่นใหม่ ผู้ฝึกสอนควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ในกระบวนการฝึกซ้อม เช่น
1แนะนำวิธีการที่ง่ายที่สุดไปหายากเพื่อที่จะสร้างความชำนาญในแต่ละทักษะ 2ลดความกลัวลูกบอลโดยการสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอล3สร้างความสนุกสนานในการะบวนการฝึกเพื่อเพิ่มความสนใจและความชอบในกีฬาวอลเลย์บอลให้กับผู้ฝึก4ป้องกันการบาดเจ็บ โดยใช้กระบวนการฝึกซ้อมที่เหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถและสภาพร่างกายของผู้ฝึก5สร้างสถานการณ์การแข่งขันในการฝึกหลังจากผู้ฝึกชำนาญเทคนิคการเสริฟและการส่งบอลแล้ว
การสร้างความคุ้นเคยกับบอลโดยผู้เล่น 1 คนต่อลูกบอล 1 ลูก

วิธีการฝึก
1. เลี้ยงบอลด้วยมือเดียว
เลี้ยงบอลด้วยมือซ้ายหรือขวาก็ได้ เดินหน้า ถอยหลัง
2. กลิ้งบอลไปข้างหน้าด้วย 2 มือ
ใช้ 2 มือประคองบอลกลิ้งไปด้านหน้าและเลี้ยงบอลด้วย 2 มือตัวต่ำ ตามภาพประกอบ
3. ถอยหลังกลิ้งบอลด้วย 2 มือ
ฝึกเช่นเดียวกับแบบที่ 2 แต่ใช้การถอยหลัง
4.กลิ้งบอลเคลื่อนที่ไปด้านข้าง
กลิ้งบอลไปด้านซ้ายโดยใช้มือขวา กลิ้งไปด้านขวาโดยใช้มือซ้าย
5.เลี้ยงบอลสลับมือไปด้านหน้า
เลี้ยงบอลสลับมือไปด้านหน้า
6.โยนลูกบอลไปด้านหน้าแล้วเคลื่อนที่ไปกระโดดจับบอล
7.โยนบอลไปด้านหน้าให้ลูกบอลกระดอนพื้น 1 ครั้งแล้วย่อจับบอล
8.เลี้ยงบอลมือเดียวย่อขา
9.เคลื่อนที่ทิศทางต่างๆ โดยใช้เข่าหนีบลูกบอลไว้
10. V Sit-up โดยใช้ลูกบอลแตะปลายเท้า
11.Back-up โดยถือลูกบอลไว้
12.โยนลูกบอลลอดขาข้ามศีรษะแล้วรับบอล
13.กลิ้งตัวไปด้านข้างโดยถือลูกบอลและใช้เท้าหนีบลูกบอล
14.กระโดดส่งบอลด้วยเท้า
15.โยนบอล Push-up รับบอล
วิธีการฝึกบางรูปแบบอาจไม่เหมาะกับเด็กเล็ก ผู้ฝึกสอนอาจจะต้องพิจารณาเลือกใช้ ในตอนต่อไปจะเป็นแบบฝึกที่ใช้ผู้เล่น 2 คนต่อลูกบอล 1 ลูก

การฝึกวอลเลย์บอลขั้นเริ่มต้น 2 (การสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอล)

การฝึกวอลเลย์บอลขั้นเริ่มต้น 2 (การสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอล)


เมื่อตอนที่แล้วผมได้นำเสนอวิธีการฝึกสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอลโดยให้ผู้เล่น 1 คนต่อลูกบอล 1 ใบ ในตอนนี้จะเป็นการฝึกสร้างความคุ้นเคยโดยผู้เล่น 2 คนต่อลูกบอล 1 ใบ
วิธีการฝึก
การสร้างความคุ้นเคยในตอนนี้เป็นการส่งลูกบอลระหว่างผู้เล่น 2 คนโดยวิธีการต่างๆ ผู้เล่นทั้ง 2 จะอยู่ห่างกันประมาณ 3- 5 เมตร
1. ยืนส่งบอลระดับหน้าอก
2. นั่งส่งบอลระดับหน้าอก
3. ส่งบอลแล้วหมุนตัว
4. ส่งบอลแล้วทำท่าวิดพื้น Push up
5. ส่งบอลแล้วนอนหงาย
6. หมุนตัวส่งบอลไปด้านหลัง
7. กระโดดจับบอลแล้วส่งบอลขณะลอยกลางอากาศ
8. ส่งบอลไปด้านหลัง
9. ส่งบอลไปด้านข้าง
10. บิดลำตัวส่ง-รับบอล
11. บิดลำตัวโยนบอล
12. ส่งบอลลอดขาแล้วรับบอลเหนือศีรษะ
13. กระโดดข้ามหลังรับบอลที่ตบลงพื้น
14. กระโดดข้ามหลังรับบอลโดยไม่ตกลงพื้น
15. กระโดดโยนบอลโดยโยนบอลเมื่อเท้าแตะมือที่ถือลูกบอล
แบบฝึกทั้งหมดผู้ฝึกทำความเข้าใจจากภาพประกอบ แบบฝึกทั้งหมดนี้มาจาก คู่มือผู้ฝึกสอนเรื่องวิธีการฝึกสอนวอลเลย์บอลสำหรับผู้เริ่มเล่นที่เขียนโดย ฮิโรชิ โทโยดะ

การฝึกวอลเลย์บอลขั้นเริ่มต้น 3 (การฝึกเล่นลูกมือล่าง Underhand)

การฝึกวอลเลย์บอลขั้นเริ่มต้น 3 (การฝึกเล่นลูกมือล่าง Underhand)


การเล่นลูกมือล่างในการเล่นวอลเลย์บอลเป็นทักษะพื้นฐานอย่างหนึ่งสามารถเล่นได้ 2 ลักษณะคือการเล่นด้วย 2 มือและมือเดียว โดยในตอนนี้จะเป็นการสอนวิธีการฝึกเล่นลูกมือล่างทั้ง 2 ชนิด สำหรับผู้ที่ฝึกหัดเล่น โดยแบบฝึกนี้จะเรียงลำดับขั้นตอนจากง่ายไปหายาก และในแต่ละแบบฝึกผู้ฝึกสอนควรให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง และให้นักกีฬาฝึกปฏิบัติจนเกิดความชำนาญ 
แบบฝึกการเล่นลูกมือล่างสำหรับผู้หัดเล่นวอลเลย์บอล 
วิธีการฝึกเล่นลูกมือล่าง 2 มือ 
1. ลักษณะการจับมือ

2. การฝึกกำหนดตำแหน่งที่บอลกระทบแขน
วิธีฝึก                
ให้ผู้เล่นโยนบอลกระทบกำแพง แล้วปล่อยให้ลูกบอลกระดอนพื้น ผู้เล่นบอลโดยให้ลูกบอลกระทบแขนในตำแหน่งที่ถูกต้อง 
3. ฝึกการควบคุมบอล เดาะบอล 
ขั้นที่ 1 โยนลูกบอลให้กระดอนพื้นให้ผู้เล่นฝึกส่งบอลขึ้นด้นบนทีละครั้งจนชำนาญ
ขั้นที่ 2 เมื่อผู้เล่นฝึกขั้นที่ 1 จนชำนาญแล้วให้ส่งบอลขึ้นข้างบนต่อเนื่อง (เดาะบอล) โดยไม่ต้องให้ลูกบอลตกพื้นก่อน
4. ฝึกส่งบอลไปด้านหน้า 
ขั้นที่ 1 ใช้ผู้เล่น 2 คนส่งบอลไปด้านหน้าโต้กันไปมาโดยให้ลูกบอลกระดอนพื้น 1 ครั้ง
ขั้นที่ 2 เมื่อฝึกจนชำนาญแล้วให้ผู้เล่นฝึกส่งบอลไปกระทบกำแพง โดยปล่อยให้บอลตกพื้นแล้วเล่นต่อเนื่องไปเรื่อยๆ 
5. ส่งบอลไปด้านข้าง
 
6. เคลื่อนที่ส่งบอล 
ส่งบอลไปด้านหน้าแล้วเคลื่อนที่ไปเล่นบอลอย่างต่อเนื่อง 
 
ส่งบอลไปด้านข้างแล้วเคลื่อนที่ไปเล่นบอลอย่างต่อเนื่อง
 
วิธีการฝึกเล่นลูกมือล่างมือเดียว 
1. ฝึกควบคุมบอลมือเดียว 
ขั้นที่ 1 
เล่นบอลโดยปล่อยลูกบอลตกพื้น 1 ครั้งแล้วเล่นต่อเนื่อง โดยฝึกใช้แขนที่ละข้าง
 
ขั้นที่ 2 
ปฏิบัติเช่นเดียวกับขั้นที่ 1 แต่เล่นบอลสลับแขน
 
2. ส่งบอลด้วยแขนข้างเดียว 
ขั้นที่ 1
              
ให้ผู้เล่นโยนบอลกระทบกำแพง แล้วปล่อยให้ลูกบอลกระดอนพื้น แล้วเล่นบอลด้วยมือเดียว 
ขั้นที่ 2
 
ผู้เล่น 2 คนส่งบอลด้วยมือเดียวโต้ไปมาโดยให้ลูกบอลกระดอนพื้น 1 ครั้ง 
3. ฝึกการควบคุมบอล เดาะบอล 
ขั้นที่ 1 เดาะบอลด้วยแขนข้างเดียวจนชำนาญทั้งซ้ายและขวา 
 
ขั้นที่ 2 เล่นบอลกับกำแพงด้วยแขนข้างเดียว 
 
ขั้นที่ 3 ส่งบอลด้วยแขนข้างเดียวระหว่างผู้เล่น 2 คน 
 
4. เสริฟด้วยมือล่าง 
ขั้นที่ 1 เสริฟใส่กำแพง 
 
ขั้นที่ 2 เสริฟบอลข้ามตาข่าย 
ฝึกเสริฟจากระยะต่างๆ คือ 3 เมตร 6 เมตร และ 9 เมตร 
 
ขั้นที่ 3 เสริฟลงตำแหน่งต่างๆ 

การฝึกวอลเลย์บอลขั้นเริ่มต้น 4 (การฝึกเล่นลูกมือบน Set-up)

การฝึกวอลเลย์บอลขั้นเริ่มต้น 4 (การฝึกเล่นลูกมือบน Set-up)


ทักษะสำคัญอีกทักษะหนึ่งในการเล่นวอลเลย์บอลคือการเล่นลูกมือบนหรือการเซต ตอนนี้จะได้นำเอาแบบฝึกการเล่นลูกมือบนสำหรับฝึกเด็กนักกีฬาที่เริ่มหัดเล่น โดยกระบวนการจะเริ่มต้นจากระดับพื้นฐานเพื่อให้ผู้ฝึกสอนสามารถนำไปฝึกหัดนักกีฬาได้อย่างเป็นขั้นตอน
ขั้นตอนการฝึกเล่นลูกมือบน
1. ลักษณะการวางมือและการสัมผัสบอล
ผู้ฝึกสอนควรจัดท่าทางนักกีฬาให้ถูกต้อง
2. การสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอล
วิธีที่ 1 เลี้ยงบอลด้วย 2 มือ
วิธีที่ 2 จับลูกบอลขึ้นจากพื้นในท่าทางการเซต
วิธีที่ 3 ขว้างลูกบอลด้วยมือเดียว
3. การจัดท่าทางตำแหน่งการเซต
ขั้นที่ 1
ทุ่มลูกบอลลงพื้นแล้วเคลื่อนที่ไปจับลูกบอลในท่าทางการเซตโดยให้ลูกบอลอยู่เหนือศีรษะ
ขั้นที่ 2 โยนลูกบอลขึ้นเหนือศีรษะแล้วจับลูกบอลในท่าการเซต
ขั้นที่ 3 โยนลูกบอลไปข้างหน้า แล้วเคลื่อนที่ไปใต้ลูกบอลหมุนตัวกลับจับลูกบอล
ขั้นที่ 4 ฝึกเหมือนขั้นที่ 3 แต่ไม่ต้องหมุนตัวกลับ
ขั้นที่ 5 ฝึกเหมือนขั้นตอนที่ 4 ใช้การย่อตัวจับลูกบอล
4. ฝึกเซตบอล
เซตบอลขึ้นเหนือศีรษะต่อเนื่องโดยไม่เคลื่อนที่
5. ฝึกเคลื่อนที่เซตบอล
โยนลูกบอลไปข้างหน้าจากนั้นเคลื่อนที่ไปเซตบอลกลับด้านหลัง
6. เคลื่อนที่เซตบอลด้านข้าง
7. หมุนตัวเซตบอล
โยนลูกบอลขึ้นเหนือศีรษะแล้วหมุนตัว 60/180/360 องศาเซตบอล
8. เคลื่อนที่เซตบอลต่อเนื่อง
เซตบอลไปข้างหน้าแล้วเคลื่อนที่ตามไปเซตบอลให้ต่อเนื่อง
9. ฝึกกระโดดเซต
โยนลูกบอลให้สูงแล้วกระโดดเซต
10. ฝึกเซตบอลไปข้างหน้า
ขั้นที่ 1
เซตบอลกระทบกำแพงแล้วปล่อยลูกบอลกระดอนพื้น 1 ครั้งแล้วเซตบอลเข้ากำแพง
ขั้นที่ 2
เซตบอลกระทบกำแพงแล้วย่อตัวเซตบอลที่กระดอนจากกำแพง
11. ฝึกเซตบอลต่อเนื่อง
ขั้นที่ 1 ย่อเซต
 
ผู้เล่น 2 คนเซตบอลให้กันโดยปล่อยลูกบอลกระดอนพื้นก่อน 1 ครั้ง
ขั้นที่ 2 นั่งเซต
ผู้เล่น 2 คนนั่งเหยียดเท้าเซตบอลให้กัน เล่นต่อเนื่อง
ขั้นที่ 3
ผู้เล่น 2 คน เซตบอลให้กัน เมื่อเซตแล้วให้ก้มเอามือแตะพื้น
ขั้นที่ 4 เคลื่อนที่ด้านข้างเซตบอล
เคลื่อนที่ไปเซตบอลด้านข้าง
ขั้นที่ 5 เซตบอล 2 จังหวะ
ผู้เล่น 2 คนเซตบอลขึ้นเหนือศีรษะก่อน 1 ครั้งแล้วจึงเซตบอลไปให้เพื่อน
ขั้นที่ 6 เซตบอล 2 จังหวะไปด้านหลัง
ผู้เล่น 2 คนเซตบอลขึ้นเหนือศีรษะ 1 ครั้ง แล้วหมุนตัว 180 องศาเซตบอลไปด้านหลัง
ในการฝึกผู้ฝึกสอนจะต้องแนะนำจัดท่าทางการเซต การเคลื่อนที่ให้ถูกต้อง และกำหนดจำนวนครั้งในการฝึกโดยขึ้นอยู่กับระดับความสามารถของนักกีฬา